วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

"พระคุณของแม่"

คำว่า แม่ นั้นหมายถึงผู้ที่ให้กำเนิด หรือบุพพการีที่มีพระคุณมากมายต่อลูกและลูกไม่สามารถที่จะตอบแทนพระคุณของแม่ได้หมด แม่จึงเปรียบเสมือนพระพรหมเทวดาและอาจารย์ของลูก ที่คอยอบรมดูแลทุกอย่างเป็นอย่างดี คำว่าแม่นั้นก็คือผู้ที่ให้กำเนิดลูกมาและเป็นผู้ที่คอยดูแลเอาใจใส่ทุกอย่าง ไม่ให้ใครมาทำร้ายลูกได้เปรียบเหมือนกับสุภาสิตที่ว่าริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม หรือความรักของแม่ที่มีต่อลูก เหมือนกับคำที่เขาว่ากันว่า ไข่ในหิน ไข่ในหินก็คือความรักของแม่ ความห่วงลูกของแม่เปรียบเหมือนไข่ในหินแม่นั้นจะรักลูกมาก ลูกนั้นจะเปรียบเหมือนกับแก้วตาดวงใจของแม่เลยทีเดียว ก็คือเมื่อลูกมีความทุกข์หรือไม่สบายใจ หรือเป็นอะไรก็ตาม แม่นั้นก็จะมีความทุกข์มาก เหมือนกับความทุกข์ของลูกทุกประการ ส่วนที่แม่ตีลูกและด่าลูกนั้น ที่จริงแม่นั้นเจ็บปวดมากที่ตีลูกและด่าลูก จนบางครั้งแม่นั้นก็ต้องแอบไปร้องไห้ตามเสาบ้านในห้องนอน หรือในที่ลับเพื่อไม่ให้ลูกเห็นที่จริงแม่นั้นก็ไม่อยากจะตีลูกเลยเพราะแม่รักลูกมากแม่จึงตีเหมือนกับสุภาสิตที่ว่า รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตีถ้าเกิดว่าแม่ไม่ตีลูกนั้นแล้วยังเอาใจอีกต่างหาก ลูกอยากได้อะไรอยากทำอะไรแม่จัดหาให้ได้ทุกอย่างนั้นจะทำให้ลูกเป็นเด็กที่เสียคน ก็เพราะไม่มีใครอบรมสั่งสอนลูกตั้งแต่เด็กๆจึงทำให้ติดเป็นนิสัยชอบเอาแต่ใจตนเอง ติดไปจนเป็นผู้ใหญ่ ส่วนลูกที่ได้แม่ที่ดีคอยอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ ลูกก็จะเป็นคนที่ดี เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ และเป็นบุคคลที่ดีของสังคม ลูกที่ดีก็ควรที่จะตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ไม่ให้ต้องอยู่เดียวดายในยามแก่เฒ่า ควรที่จะเลี้ยงดูแลท่านให้เหมือนกับท่านที่เลี้ยงดูเรามาตั้งแต่ยังเล็ก ๆเมื่อลูกใหญ่วัยทวนควรศึกษา แม่จะพาลูกรักไปฝากให้จะเสียทุนหนุนค่าวิชาไป ถ้ามีให้แล้วไม่ขัดเป็นสัตย์จริงถึงไม่มีบางทีต้องกู้เขา จะหนักเบายอมลูกไปทุกสิ่งสู้ตรากตรำทำงานการจริงจริง เพื่อแลกสิ่งทรัพย์ได้มาให้เราแม่มีพระคุณต่อลูกมากมาย ลูกไม่สามารถที่จะตอบแทน พระคุณของแม่ได้หมด ลูกควรที่จะตอบแทนพระคุณของแม่ให้มาก ๆ ทำให้ท่านมีความสุข และเมื่อแก่เฒ่าก็ไม่ทิ้งท่าน เราสามารถทำให้แม่มีความสุขมากได้ก็คือ ลูกผู้ชายออกบวชให้แม่หรือถ้าเป็นลูกผู้หญิงหากแม่ของตนยังไม่มีศีล ก็สามารถชักจูงให้แม่มาถือศีล ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนพระคุณของแม่ได้ด้วยเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น